เชื่อว่าหลายๆ ท่านที่ได้อ่านบทความนี้ ต้องเคยพบเจอกับปัญหา ในเวลาที่เราซักผ้าในหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลิ่นอับจากผ้าที่เรานั้นคิดว่าซักผ้าดีเท่าไหร่ก็ยังแอบมีกลิ่นเหม็นอับ หรือเวลาว่างของเราอาจจะไม่สอดคล้องกับเวลาที่ควรจะซักผ้าตากผ้า วันไหนฝนตกฟ้าร้องขึ้นมา ก็จะทำให้รู้สึกว่าการซักผ้าในหน้าฝนนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกเหมือนฤดูอื่นๆ
เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทั้งเรื่องฟ้าฝน ความชื้นสะสมในอากาศ โดยในบทความนี้ ทางเราจะขอนำเสนอ “6 วิธีรับมือกับการซักผ้าหน้าฝน ไม่ให้เหม็นอับและยังหอมทนนาน”
ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อหลายคนที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ซักผ้าที่บ้าน หรือใช้บริการร้านสะดวกซัก
กลิ่นอับจากผ้าเกิดจากอะไร ?
กลิ่นอับจากผ้า ปัญหาที่ใครหลายคนพบเจออยู่บ่อยครั้ง แม้เราจะพยายามเลือกเวลาในการซักผ้า หรือตากผ้าให้เหมาะสมแล้วก็ตาม แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะมองข้ามไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดกลิ่นอับ เพราะผ้าของเรามีคุณสมบัติในการกักเก็บความชื้นได้ดี หมายความว่า ความชื้นที่อยู่ในผ้าจะกลายเป็นการสะสมของแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อโรคสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เราอาจจะมองไม่เห็น ส่งผลให้มีกลิ่นอับไม่พึงประสงค์
6 วิธีรับมือกับการซักผ้าหน้าฝน
เมื่อการซักผ้านั้น คือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เพราะทุกวันเราก็ต้องใช้เสื้อผ้าเป็นประจำ แต่เราก็ต้องเผชิญปัญหาในการซักผ้าหน้าฝน ที่หลายๆ ท่านเองอาจจะเบื่อหน่ายกับกลิ่นอับที่เกิดขึ้น แต่ด้วยปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เราก็มีวิธีรับมือกับมันเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นการซักผ้าที่บ้าน หรือที่ร้านสะดวกซักก็ตาม ในส่วนต่อไปของบทความ เราได้แยกและลิสต์ “6 วิธีรับมือกับการซักผ้าหน้าฝน” มาให้ทุกคนได้ลองไปใช้กัน
1.ไม่นำเสื้อผ้าเปียกชื้นไว้ในตะกร้า
เมื่อเราทราบว่า ความเปียกชื้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แบคทีเรียและเชื้อโรคสิ่งสกปรกต่างๆ สามารถเจริญเติบโตได้ดีและเร็ว ดังนั้นทุกครั้งที่ซักผ้าเสร็จ อย่าลืมที่จะแยกผ้าออกมาก่อน เป็นสัดส่วนและจัดวางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
หากใช้บริการร้านสะดวกซัก ควรรีบกลับมาตากไว้ให้แห้ง อย่านำเสื้อผ้าที่เปียกชื้นไว้ในตะกร้า เพราะนี่คืออีกเหตุผลที่เราให้เสื้อของเรามีแบคทีเรียสะสมจนนำไปสู่ปัญหาเสื้อเหม็นอับได้
2.ปริมาณผ้าต้องเหมาะสมกับความจุของเครื่องซักผ้า
ต่อมาเมื่อเรานั้นทำการซักผ้าไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ร้านซักผ้าทุกครั้ง และหากเสื้อผ้ามีมากกว่าความจุของเครื่องซักผ้า ก็ควรที่จะแบ่งมาซักอีกเครื่อง เพราะเครื่องซักผ้านั้นจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณผ้าต้องเหมาะสม กับความจุของตัวเครื่อง ยิ่งผ้ามีจำนวนเยอะเท่าไหร่ เครื่องซักผ้า จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
3.เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเฉพาะสำหรับลดกลิ่นอับ
กลิ่นที่หอมของผ้าก็มีผลมาจากผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เราเลือกใช้ มีสูตรเฉพาะอย่างไร และที่สำคัญในปัจจุบันนั้นมี ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเฉพาะสำหรับลดกลิ่นอับ ที่ออกแบบและคิดค้นมาเพื่อปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกซักผ้าในตอนกลางวัน หรือในหน้าฝนที่อาจจะไม่มีลมและแดดเพียงพอ ที่จะช่วยทำให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพ มีกลิ่นหอม และลดกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี
4.ตากผ้าทันทีหลังจากซักเสร็จ
ไม่ว่าจะที่บ้านหรือไปใช้บริการร้านซักผ้า สิ่งที่จำเป็นต้องรีบทำหลังซักผ้าเสร็จ คือการตากผ้าทันที ซึ่งด้วยเหตุนี้เอง หากเราทิ้งเสื้อผ้าของเราไว้โดยไม่ได้นำไปตากทันที จะก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นอับได้
5.ใช้เครื่องอบผ้าแทนการตากผ้า
ในวันที่ฝนตก อาจจะลองเปลี่ยนจากการตากผ้าปกติ เป็นการอบผ้าที่ร้านสะดวกซักแทน เพื่อเลี่ยงฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกในอากาศ เพราะละอองความชื้นในอากาศ อาจจะนำสิ่งสกปรกมาสู่เสื้อผ้าซึ่งทำให้เกิดกลิ่นอับตามมาได้
6.ใช้เครื่องปรับอากาศหรือเปิดพัดลมเพื่อไล่ความชื้น
ทุกครั้งที่ซักผ้า หากไม่ได้มีเครื่องอบผ้าเหมือนร้านสะดวกซัก อาจจะใช้เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน หรือใช้พัดลม เปิดไล่ความชื้นที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้าให้มีความแห้ง และลดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อโรคสิ่งสกปรกที่ไม่พึงประสงค์
เครื่องซักอบผ้าจาก 24 Wash สามารถแก้ปัญหานี้ได้!!
สำหรับการซักผ้าที่อาจจะต้องพบเจอกับปัญหาของความอับชื้น กลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ในหน้าฝน หรือ ท้องฟ้าที่มีฝุ่นสะสมมากมายทำให้หลายๆคนนั้นอาจจะเบื่อหน่ายกับการซักผ้า หรือเครื่องซักผ้าที่บ้านก็อาจจะไม่มีความจุเพียงพอ ทำให้ต้องแบ่งการซักผ้าหลายๆ รอบ
ดังนั้นเราขอแนะนำ 24 Wash ร้านซักผ้า ที่มีเครื่องอบแห้งได้รับมาตราฐานมาตราฐานระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา และมีความจุหลากหลายขนาด สำหรับการซักผ้าของคุณในปริมาณที่มาก รวมถึง เครื่องอบผ้าที่มีประสิทธิภาพช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาตากผ้า หรือลุ้นว่าหลังจากเสื้อแห้งจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา
สรุป
เมื่อ “เสื้อผ้า” คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต นำไปสู่การที่เราต้องทำความสะอาดด้วยการซักผ้า แต่แน่นอนก็มักจะมีปัญหาอีกหลายๆ อย่างตามมา ไม่ว่าจะกลิ่นอับหรือเสื้อผ้าที่เปียกชื้น ที่ซักผ้ามาแล้วแต่ก็ไม่มีแดดเพียงพอให้เสื้อของเรานั้นแห้งสนิทอย่างเหมาะสม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาเหล่า
นี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ หากเราให้การดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี ตากผ้าทันทีหลังจากที่ซักผ้า จัดสัดส่วนในการเก็บหรือตากอย่างเหมาะสม หรือหากบางวันหากเราไม่สะดวกซักหรือตากผ้า ก็อาจจะลองใช้บริการร้านซักผ้า ที่มีเครื่องซักและอบผ้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้อุปสรรคและปัญหาของการซักผ้าในหน้าฝนนั้นหมดไปทันที